อาจจะพูดถึงโครงการที่รัฐบาลออกมาในช่วงเวลานี้เพื่อออกมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่กำลังเข้ายากหมากแพง ช่วงที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนมากที่สุดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและช่วงที่ประชาชนตกงานมากที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา โครงการที่รัฐบาลออกมาช่วยเหลือนั้นมีหลายโครงการมากและล่าสุดโครงการที่ออกมานั้นเป็นโครงการที่ชื่อว่า ช็อปดีมีคืน
โดยโครงการนี้ออกมาควบคู่กับโครงการคนละครึ่งซึ่งแน่นอนว่าตามเงื่อนไขแล้วหากใครลงทะเบียนที่ชื่อว่าคนละครึ่งแล้วก็จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการช็อปดีมีคืนได้ดังนั้นหลายคนจึงต้องตัดสินใจและพิจารณาให้รอบคอบว่าตนเองนั้นเหมาะสมกับโครงการไหนอย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้จึงจะมาพูดถึงเกี่ยวกับตัวเลือกของโครงการชกทีวีคืนว่าเราสามารถพิจารณาจากตรงไหนว่าเราเหมาะที่จะเข้าร่วมโครงการนี้หรือไม่
สำหรับรายละเอียดของโครงการช็อปดีมีคืนนั้นเป็นโครงการ มีลักษณะคล้ายเคียงกับโครงการช็อปช่วยชาติที่มีการเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา 2 ปีแล้วโดยลักษณะที่ใกล้เคียงกันนั่นก็คือจะมีการให้ประชาชนออกมาช้อปปิ้งซื้อสิ่งของตามเงื่อนไขที่ทางโครงการมีการระบุไว้ว่าสินค้าอะไรบ้างที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้และเมื่อประชาชนช้อปปิ้งเรียบร้อยแล้วก็สามารถขอใบเสร็จจากร้านค้าและนำใบเสร็จนั้นไปทำการยื่นขอส่วนลดภาษีมูลค่าเพิ่มตอนสิ้นปีได้นั่นเอง
ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการใกล้เคียงกันกับช็อปช่วยชาติเลยทีเดียวเพราะในแต่ละปีนั้นช่วงประมาณปลายเดือนธันวาคมก็จะมีโครงการช็อปช่วยชาติออกมาเพื่อให้ประชาชนได้นำใบเสร็จที่ไปซื้อของนำไปลดหย่อนภาษีได้สำหรับโครงการช็อปช่วยชาตินั้นสามารถนำยอดเงินสูงสุดได้ไม่เกิน 15,000 บาทในการไปใช้เป็นส่วนลดในการลดหย่อนภาษีแต่สำหรับโครงการของโชคดีมีคืนนั้นจะเพิ่มวงเงินเป็น 30,000 บาทในการนำไปลดหย่อนภาษีตอนสิ้นปีได้
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าโครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในตอนสิ้นปีอยู่แล้วและเป็นคนที่มีเงินเก็บไว้สำหรับสามารถออกมาช้อปปิ้งซื้อข้าวของเครื่องใช้ได้ดังนั้นหากประชาชนคนไหนที่ปกติแล้วสิ้นปีไม่ต้องยื่นเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่ได้มีเงินมากพอที่จะออกมาช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยยอดสูงแบบนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกโครงการนี้ก็ได้ซึ่งสามารถไปร่วมโครงการอื่นที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างเช่น โครงการคนละครึ่งซึ่งหากเราไม่มีการเสียภาษีอยู่แล้วการใช้โครงการคนละครึ่งจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อของได้มากกว่าโครงการสอบดีมีคือมากเลยทีเดียว
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกเข้าโครงการไหนให้พิจารณาที่รายได้ของตนเองเป็นหลักและเงื่อนไขของแต่ละโครงการว่าเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบันของตนเองที่มีอยู่หรือไม่
สนับสนุนโดย หวยจับยี่กีรวย