สำหรับประเทศไทยในขณะนี้นอกจากเราจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังมีการระบาดอยู่ในขณะนี้แล้วในตอนนี้เองทางด้านคุณหมอจากโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นจากโรงพยาบาลของรัฐหรือแม้แต่จากโรงพยาบาลของเอกชนก็ตามแต่ได้ออกมาพูดถึงเชื้อไวรัสตัวใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยไวรัสชนิดนี้มักจะเกิดกับเด็ก
ซึ่งในขณะนี้นั้นพบว่ามีเด็กเป็นจำนวนมากที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จนต้องไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทำให้ขณะนี้โรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นของทางรัฐหรือแม้แต่ของทางเอกชนก็ตามมีเด็กที่ติดไวรัสชนิดนั่นโรงพยาบาลเต็มไปหมดจนแทบจะไม่มีที่ให้รักษา
สำหรับไวรัสที่เรากำลังพูดถึงอยู่ขนาดนี้ คือไวรัสที่ชื่อว่า rsv โดยไวรัสชนิดนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดมาและไม่ใช่เป็นไวรัสที่พึ่งมีในปีนี้ปีแรกเท่านั้นและไวรัส rsv นั้นมีมานานแล้วและเด็กๆมักจะเป็นกันเป็นประจำทุกปีเมื่อช่วงเข้าสู่หน้าฝนต่อเนื่องไปสู่หน้าหนาว สำหรับอาการของผู้ที่ติดเชื้อไวรัส rsv นั้นไม่ได้แตกต่างจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดเลยแต่อาการจะรุนแรงมากกว่าเพราะจะมีปัญหาในเรื่องของระบบการหายใจอีกทั้งยังมีเสมหะและน้ำมูกเยอะนั่นเอง
สำหรับเด็กที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส rsv มากที่สุดนั่นก็คือเด็กที่มีอายุยังไม่ถึง 5 ขวบยิ่งถ้าเด็กรุ่นนี้ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีอาการจะรุนแรงมากกว่าเด็กที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไปอีกทั้งเนื้อไวรัส rsv ยังพบได้ง่ายในเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือแม้แต่เด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงมีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นโรคตายหรือไม่ตายโรคปอดก็ตาม
ความน่ากลัวของไวรัส rsv นั้นน่ากลัวมากเพราะจะมีอาการส่งผลต่อระบบการหายใจทำให้เด็กหายใจลำบากและอาจจะทำให้เด็กต้องหายใจเร็วและแรงซึ่งถ้ามีเสมหะมาเป็นอาการร่วมด้วยจะยิ่งทำให้การรักษาลำบากมากยิ่งขึ้น ไปอุดตรงบริเวณหลอดลมทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายได้บางครั้งถ้าหากมีอาการรุนแรงก็อาจจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
สำหรับการรักษาอาการนั้นต้องให้ทางคุณหมอรักษาอาการตามอาการที่เกิดขึ้นเพราะในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนที่จะสามารถป้องกันไวรัส rsv ได้ดังนั้นถ้ามีเสมหะเยอะคุณหมอก็จะต้องดูดเสมหะออกให้หรือถ้ามีอาการเป็นไข้ตัวร้อนก็ต้องกินยาลดไข้รวมถึงอาจจะต้องมีการพ่นจมูกหายใจไม่ออก
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นเยอะอากาศของเมืองไทยก็มีฝุ่นละออง PM 2.5 ออกมาระบาดดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายจึงไม่ควรพาเด็กเล็กออกนอกบ้านและคงจะพาไปฉีดวัคซีนตามกำหนดระยะเวลาที่ทางโรงพยาบาลกำหนดไว้ว่าจะเป็นไข้หวัดใดหรือแม้แต่วัคซีนไอพีดีก็ตาม
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์