สุขภาพ

มือชา ภัยเงียบของคนปัจจุบัน

การกดทับเส้นประสาทที่ฝ่ามือจะทำให้มีอาการปวดมือ และ ปวดร้าวขึ้นไปที่แขน มักจะมีอาการชาที่นิ้วมือ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง

และบางส่วนของนิ้วนาง ตามแนวของเส้นประสาท

อาการปวดจะมีมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานในลักษณะการเกร็งอยู่นานๆ เช่น การจับมีด กรรไกร การทำงานช่างที่ใช้ค้อน หรือใช้เครื่องมือที่มีแรงสั่น

สะเทือน ตั้งแต่เครื่องเป่าผม จนถึงเครื่องกระแทกเจาะคอนกรีต

มักจะมีอาการปวดในเวลากลางคืน หรือ เวลาตื่นนอนเช้า บางรายที่ถูกกดทับอยู่นานๆ จะเริ่มมีอาการปวดมือ เช่น จะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรง

เวลากำมือ โดยเฉพาะการใช้มือหยิบของเล็กๆจะทำได้ลำบากและมีกล้ามเนื่อลีบที่ฝ่ามือ

สาเหตุ และ พยาธิสภาพ

อาการปวดและชาเกิดเนื่องจากมีความดันสูงในช่องอุโมงที่เส้นประสาทลอดผ่านที่บริเวณฝ่ามือ เนื่องจากมีการอักเสบและการหนาตัวของ

เนื้อเยื่อพังผืดที่คลุมช่องอุโมงนี้ เกิดการกดทับเส้นประสาทและเส้นประสาท

ในรายที่เป็นอยู่นานๆ ก็จะเกิดเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ รัดเส้นประสาทอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล

 

การตรวจวินิจฉัย

ในบางรายอาจต้องใช้การตรวจระบบไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ

ปัจจัยเสี่ยง และ โรคที่เกี่ยวข้อง

@ โรคเบาหวาน

@ โรคข้ออักเสบ เช่น รูมาตอยด์ ,เก๊าท์

@ โรคต่อมไทรอยด์บกพร่อง

@ ภาวะตั้งครรภ์

@ ก้อนถุงน้ำ หรือเนื้องอกในช่องอุโมง

@ กระดูกหักบริเวณข้อมือ

@ การใช้งานมือนานๆ

@ ภาวะบวมน้ำจากโรคไต โรคตับ

การรักษา

@ ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานมือในลักษณะเกร็งนานๆ

@ ควบคุม หรือรักษาโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวานให้ดี

@ การใช้ยาลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดรับประทาน มักจะได้ผลดีโดยอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

@ บางรายอาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยดามข้อมือชั่วคราว

@ การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าในช่องอุโมง จะช่วยลดการอักเสบและบางรายจะหายได้

 

การผ่าตัด

เป็นการรักษาในรายที่มีอาการมาก หรือกล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงหรือลีบลง และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา และทำให้หายขาดได้

การผ่าตัดจะเป็นการตัด และ เลาะพังผืดที่รัดเส้นประสาท

ซึ่งเป็นการผ่าตัดเล็ก และผู้ป่วยสามารถใช้งานได้ภายใน 2 สัปดาห์