มะเร็งปอด
มะเร็งปอด ป่วยแล้วควรดูแลตัวเองอย่างไร
หากเริ่มเข้าสู่กระบวนการรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลข้างเคียงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยควรปฏิบัติตัวขั้นพื้นฐาน ดังนี้
– งดสูบบุหรี่ในทันที
– ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัดที่มีคนมาก ๆ เช่น ตลาด โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
– ไม่ควรใกล้ชิดกับคนที่ไม่สบาย เด็กที่ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยเช่นกัน
– นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังได้รับเคมีบำบัด ควรพักผ่อนให้มาก ๆ
– ออกกำลังกายได้ตามความเหมาะสมของร่างกาย ทั้งนี้ก่อนออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวทุกครั้งด้วยนะคะ
– ควรดูแลผิวหนังบริเวณที่ฉายแสง โดยชำระล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อน หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด รวมถึงการใช้ถุงน้ำร้อน หรือประคบเย็น สำหรับโลชั่นหรือครีมทาผิวไม่ควรทาก่อนมารับการฉายแสง
มะเร็งปอด
มะเร็งปอด VS อาหารที่ควรกินและไม่ควรกิน
ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงจะส่งเสริมให้การรักษาโรคมะเร็งปอดเป็นไปได้ด้วยดีมากขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยควรเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะรับการรักษา โดยควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ แป้ง เนื้อสัตว์ ไขมัน ไข่ นม ผัก และผลไม้ ปรุงสุกสะอาด และควรรับประทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่เข้ารับการทำเคมีบำบัด ควรให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและสะอาด ถูกหลักอนามัย ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดควรรับประทานไข่ขาวให้มากขึ้น เพราะไข่ขาวเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
ส่วนอาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งปอดไม่ควรรับประทานก็คืออาหารที่อาจทำให้ท้องเสียได้ง่าย เช่น อาหารค้างคืน ขนมจีน ส้มตำ หรือยำต่าง ๆ นอกจากนี้ควรงดการรับประทานผักสด ผลไม้เปลือกบาง เช่น องุ่น ชมพู่ และผลไม้ที่ไม่มีเปลือก เช่น สตรอว์เบอร์รี โดยเฉพาะในช่วง 14 วันแรก หลังได้รับยาเคมีบำบัดด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เข้ารับการรักษามะเร็งปอด หากมีอาการผิดปกติกับร่างกาย เช่น มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส ท้องเสียหรือท้องผูกอย่างรุนแรง มีอาการปวดมาก หายใจลำบาก หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด